เปิดในหน้าต่างใหม่
อัพเดท 23 กันยายน 2568

Apple เปิดตัวโครงการใหม่เพื่อปกป้องและฟื้นฟูป่าเรดวูดในรัฐแคลิฟอร์เนีย

นับตั้งแต่ปี 2021 Apple ได้ลงทุนในโครงการอนุรักษ์และการเกษตรเชิงฟื้นฟูไปแล้วกว่า 20 โครงการทั่วทั้ง 6 ทวีปผ่านโครงการริเริ่ม Restore Fund สุดก้าวล้ำ
Apple ร่วมมือกับ The Conservation Fund เพื่อช่วยปกป้องพื้นที่ป่าเรดวูดริมชายฝั่งกว่า 14,000 เอเคอร์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
วันนี้ Apple ประกาศการลงทุนครั้งใหม่เพื่อฟื้นฟูและบริหารจัดการป่าเรดวูดในรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างยั่งยืนโดยจับมือกับ The Conservation Fund โครงการอนุรักษ์ป่าไม้ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายโครงการริเริ่ม Restore Fund ของ Apple ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนในโครงการอนุรักษ์และการเกษตรเชิงฟื้นฟูไปแล้วกว่า 20 โครงการโดยครอบคลุมทั้ง 6 ทวีป
“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยปกป้องป่าเรดวูดริมชายฝั่งอันเป็นสัญลักษณ์ของแคลิฟอร์เนียภายใต้โครงการริเริ่ม Restore Fund ของเราที่เติบโตยิ่งขึ้น” Lisa Jackson รองประธานฝ่าย Environment, Policy, and Social Initiative กล่าว “ป่าไม้คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดที่เรามีในการดูดซับคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ และการลงทุนของเราในธรรมชาติทั่วโลกไม่เพียงต่อยอดเทคโนโลยีนี้เท่านั้น แต่ยังช่วยสนับสนุนชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพให้กับระบบนิเวศทั่วโลก”
โครงการริเริ่ม Restore Fund ออกแบบมาเพื่อผลักดันการลงทุนด้านการกำจัดคาร์บอนโดยวิธีธรรมชาติให้ขยายไปทั่วโลก และนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกร่วมกับ Goldman Sachs และ Conservation International ในปี 2021 Apple ได้ขยายโครงการริเริ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มจากในปี 2023 ผ่านการจัดตั้งกองทุนใหม่ซึ่งบริหารโดย Climate Asset Management และอีกครั้งในปี 2025 ผ่านการลงทุนโดยตรงเพิ่มเติมในโครงการที่ใช้แนวทางธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาและลาตินอเมริกา ในเขตเมนโดซิโนรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านโครงการอนุรักษ์ป่าเรดวูด
การลงทุนในโครงการด้านธรรมชาติของ Apple มีบทบาทสำคัญต่อเป้าหมาย Apple 2030 ที่จะทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ทั้งหมดของบริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ และเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น Apple กำลังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลง 75% เมื่อเทียบกับปี 2015 และจนถึงตอนนี้สามารถลดได้เกินกว่า 60% แล้ว Apple ยังใช้เครดิตจากโครงการกำจัดคาร์บอนคุณภาพสูงเพื่อชดเชยการปล่อยที่เหลืออยู่ โดยให้ความสำคัญกับแนวทางที่อิงกับธรรมชาติ เนื่องจากสามารถขยายผลได้และมีประโยชน์ที่จะตามมามากมาย โดยภายในปี 2030 Apple และซัพพลายเออร์ตั้งเป้าที่จะกำจัดก๊าซคาร์บอนจำนวน 9.6 ล้านเมตริกตันออกจากบรรยากาศให้ได้ทุกปีผ่านโครงการต่างๆ ทั่วโลก
จากซ้ายไปขวา: นอกจากต้นเรดวูดแล้ว ป่า Gualala River ยังเป็นถิ่นอาศัยของพันธุ์ไม้สำคัญอื่นๆ เช่น ต้นชูการ์ไพน์และต้นโอ๊กดำแห่งแคลิฟอร์เนียอีกด้วย
จากบนลงล่าง: นอกจากต้นเรดวูดแล้ว ป่า Gualala River ยังเป็นถิ่นอาศัยของพันธุ์ไม้สำคัญอื่นๆ เช่น ต้นชูการ์ไพน์และต้นโอ๊กดำแห่งแคลิฟอร์เนียอีกด้วย

การปกป้องผืนป่าในสหรัฐอเมริกา

Apple ได้ลงทุนในการฟื้นฟูระยะยาวและการจัดการอย่างยั่งยืนสำหรับป่า Gualala River ในเขตเมนโดซิโนรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านโครงการอนุรักษ์ป่าเรดวูด ความพยายามครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับ The Conservation Fund องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐอเมริกาที่เข้าซื้อป่าไม้และภูมิทัศน์ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกทำลาย เพื่อปกป้องและรักษาป่าไม้เหล่านั้นไว้ โดยองค์กรแห่งนี้ได้ปกป้องพื้นที่ป่าในเขตเรดวูดของแคลิฟอร์เนียไปแล้วกว่า 120,000 เอเคอร์นับตั้งแต่ปี 2004
“ป่าไม้ของอเมริกากำลังเผชิญแรงกดดันอย่างมหาศาล เพราะเป็นไปได้ว่าพื้นที่ป่ากว่า 13 ล้านเอเคอร์อาจสูญหายไปภายในปี 2050 นี่คือหนึ่งในความท้าทายด้านการอนุรักษ์ที่สำคัญที่สุดในยุคของเรา” Larry Selzer ประธานและ CEO ของ The Conservation Fund กล่าว “ป่าไม้คือรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในชนบทซึ่งช่วยสนับสนุนการจ้างงานมากกว่า 2 ล้านตำแหน่ง ความร่วมมือของเรากับ Apple ถือเป็นต้นแบบอันทรงพลังในการปกป้องป่าที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน และเรายังตั้งใจที่จะต่อยอดแนวทางนี้กับพันธมิตรทั่วประเทศอีกด้วย”
ป่า Gualala River เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าเรดวูดริมชายฝั่งขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านับร้อยสายพันธุ์และยังเป็นแหล่งหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของหลายชุมชนทั่วชายฝั่งตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย The Conservation Fund จะยังคงดูแลจัดการป่าอย่างยั่งยืนภายใต้ความร่วมมือนี้ ขณะที่ Apple ก็จะได้รับเครดิตคาร์บอนที่จากการเติบโตของป่าในระยะยาว
The Conservation Fund ตรวจวัดเส้นผ่านศูนย์กลางและความสูงของต้นไม้ในป่าเป็นประจำเพื่อติดตามปริมาณคาร์บอนที่ต้นไม้กักเก็บไว้ ต้นไม้ที่ถูกเลือกเพื่อการวัดจะมีการทำเครื่องหมายไว้ เพื่อให้กลับมาวัดที่ต้นเดิมได้ทุกครั้ง
Apple ได้ร่วมมือกับ The Conservation Fund เพื่อปกป้องผืนป่าที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนกว่า 36,000 เอเคอร์ในรัฐเมนและนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นด้านการอนุรักษ์ในสหรัฐอเมริกา นอกจากป่าเรดวูดในรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว Apple ยังได้ลงทุนในป่าฝนเขตอบอุ่นที่มีพันธุ์ไม้หลายสายพันธุ์ในรัฐวอชิงตันผ่านความร่วมมือกับ Climate Asset Management ภายใต้โครงการริเริ่ม Restore Fund อีกด้วย

การอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วโลก

ความมุ่งมั่นของ Apple ที่มีต่อธรรมชาติยังแผ่ขยายไปทั่วโลก โดย Apple ได้ลงทุนและให้การสนับสนุนโครงการด้านการกำจัดคาร์บอนโดยวิธีธรรมชาติ การเกษตรเชิงฟื้นฟู และการอนุรักษ์เชิงนวัตกรรมหลายสิบโครงการในทวีปแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ผ่านโครงการริเริ่ม Restore Fund พร้อมมอบเงินสนับสนุนแก่ชุมชนและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
วันนี้ Apple ยังได้ประกาศมอบทุนสนับสนุนใหม่เพื่อขับเคลื่อนความพยายามด้านการอนุรักษ์ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับ Conservation International เพื่อพัฒนาผู้นำด้านการอนุรักษ์และเสริมสร้างศักยภาพในการปกป้องระบบนิเวศที่สำคัญ อาทิ ป่าชายเลนในอินเดีย ตลอดจนการสนับสนุนเพิ่มเติมแก่มูลนิธิ Jane Goodall ผ่านโครงการ Roots and Shoots ระดับโลก และการอนุรักษ์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน นอกจากนี้ Apple ยังให้การสนับสนุนโครงการใหม่ร่วมกับ The Nature Conservancy เพื่อประเมินคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีตรวจวัดระยะไกลในการติดตามและตรวจสอบโครงการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโดยวิธีธรรมชาติ
ทุนสนับสนุนใหม่เหล่านี้เป็นการต่อยอดจากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและชุมชนท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน เพื่อสนับสนุนความพยายามด้านการอนุรักษ์เชิงนวัตกรรม โครงการเหล่านี้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนงานวิจัยด้านการอนุรักษ์ สนับสนุนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน และทดลองแนวทางใหม่ๆ ในการกักเก็บคาร์บอน การสร้างแบบจำลอง และการจัดการทางการเงิน
ภาพมุมสูงของผืนป่าที่ได้รับการจัดการอย่างรับผิดชอบโดย Symbiosis ในประเทศบราซิล
Apple สนับสนุนโครงการกำจัดคาร์บอนโดยวิธีธรรมชาติและการเกษตรเชิงฟื้นฟูทั่วโลก รวมถึงป่าพื้นเมืองไม้เนื้อแข็งที่มีการใช้ประโยชน์ในบราซิลแห่งนี้ผ่านโครงการริเริ่ม Restore Fund สุดก้าวล้ำ
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com